ไทย
ค้นหา

คลังความรู้

มาตรฐาน TISAX

ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็มีมาตรฐานฉบับหนึ่งที่ถูกกำหนดขึ้นจากทางฝั่งยุโรป เป็นมาตรฐานที่ให้ความสำคัญกับข้อมูล

มาตรฐานนั้นคือ TISAX (Trusted Information Security Assessment Exchange) เป็นมาตรฐานสำหรับการประเมินความมั่นคงปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนและดูแลข้อมูลระหว่างบริษัทเจ้าของข้อมูล และบริษัทคู่ค้า มาตรฐานฉบับนี้ถูกพัฒนาขึ้นจากความร่วมมือของ VDA (German Association of the Automotive Industry) และ ENX (Association of European Vehicle Manufacturers)

TISAX มีความแตกต่างจาก ISO/IEC 27001 อยู่ เนื่องจาก TISAX ให้ความสำคัญกับหลักการ Maturity base โดยมาตรฐาน TISAX ประกอบด้วยหัวข้อหลัก 3 หัวข้อดังต่อไปนี้

1. Information Security: ความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ

2. Prototype Protection: การปกป้องข้อมูลยานยนต์ต้นแบบ

3. Data Protection: การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

อีกทั้งการตรวจประเมินถูกแบ่งออกเป็น 3 ระดับ โดยสามารถสรุปใจความสำคัญดังต่อไปนี้

  • Assessment level 1 (AL 1) เป็นการประเมินตนเองของบริษัท ไม่มีการส่งหลักฐานหรือการสัมภาษณ์จากผู้ตรวจสอบภายนอก
  • Assessment level 2 (AL2) เป็นการตรวจประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอกที่ได้รับการรับรองผ่านทางออนไลน์ และมีการนำส่งหลักฐานให้กับผู้ตรวจสอบภายนอกเพื่อประเมิน
  • Assessment level 3 (AL3) เป็นการตรวจทั้งหลักฐานและการสัมภาษณ์ โดยผู้ตรวจสอบภายนอกที่ได้รับการรับรอง ซึ่งจะเป็นการตรวจในรูปแบบ On-site หรือการตรวจที่สถานที่ปฏิบัติงานจริง

สอบถามรายละเอียดบริการที่ปรึกษาหรือตรวจประเมินระดับความสอดคล้องหรือบริการอื่น ๆ

ท่านสามารถติดต่อทีม Sales ได้ที่เบอร์ 092-477-7832 หรืออีเมล sales@proud-consulting.com

Gartner Top 10 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ 2025

ทุก ๆ ปีทาง GARTNER จะออกข้อมูล Technology trend เพื่อให้องค์กรใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนในอนาคต

หัวข้อที่ 1 : AI Imperative and risk
1. Agentic AI
2. AI Governance Platforms
3. Disinformation Security
 
หัวข้อที่ 2 : New Frontiers of Computing
4. Post-Quantum Cryptography
5. Ambient Invisible Intelligence
6. Energy-Efficient Computing
7. Hybrid Computing
 
หัวข้อที่ 3 : Human-machine Synergy 
8. Spatial Computing
9. Polyfunctional Robots
10. Neurological Enhancement
 
PROUD เรามีการบริการที่สอดคล้องตามหัวข้อดังกล่าวอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่องค์กรในอนาคต
ISO/IEC 42001:2023 คืออะไร?

ISO/IEC 42001:2023 เป็นมาตรฐานสากลสำหรับการจัดการเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเหมาะสม

มาตรฐานได้กำหนดกรอบกระบวนการ และมาตรการเพื่อใช้ในการจัดการกับ AI ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดการกับ AI ได้อย่างเป็นระบบและลดความเสี่ยงที่เกี่ยวกับ AI โดยสามารถใช้ได้กับทั้งองค์กรที่มีบทบาทเป็นผู้พัฒนา ผู้ให้บริการ หรือผู้ใช้ AI

องค์กรที่ควรทำ

องค์กรที่เป็นผู้พัฒนาระบบ AI : องค์กรที่พัฒนาระบบ AI หรือให้บริการโดยอาศัยระบบ AI จะได้รับประโยชน์จากระบบ AI ที่พัฒนาให้มีความน่าเชื่อถือ ความโปร่งใส และมีประสิทธิภาพ

องค์กรที่ใช้ AI ในกระบวนการทำงาน : องค์กรที่มีการใช้เทคโนโลยี AI ในการดำเนินงาน จะได้รับประโยชน์จากการการใช้ AI อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

องค์กรที่ต้องการสร้างความน่าเชื่อถือ : องค์กรที่ต้องการสร้างความไว้วางใจและความน่าเชื่อถือในสายตาของลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสีย จะได้รับประโยชน์จากการได้รับการรับรองมาตรฐานสากล

องค์กรที่ต้องการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนด : องค์กรที่ต้องการปฏิบัติตามกฎหมายและข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการใช้ AI และการปกป้องข้อมูล จะได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติตามมาตรฐานนี้

หลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบ AI

Cyber Security Agency (CSA) ของสิงคโปร์ประกาศเผยแพร่ eBook 

หน่วยงาน Cyber Security Agency (CSA) ของสิงคโปร์จึงได้จัดทำ “หลักเกณฑ์การรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบปัญญาประดิษฐ์ (Guidelines on Securing AI Systems)” เพื่อช่วยให้สามารถรักษาความมั่นคงปลอดภัยในการพัฒนาและใช้งาน AI รวมถึงปกป้องระบบ AI จากความเสี่ยงด้านต่าง ๆ โดยคู่มือฉบับนี้ยังมีการอ้างถึงกรอบการทำงานและมาตรฐานอื่นๆ ด้วย 

มาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของระบบคลาวด์

คณะกรรมการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติได้ ออกประกาศเกี่ยวกับมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ของระบบคลาวด์

สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงทั้งในนมุมของผู้ใช้บริการคลาวด์ (Cloud Service Customer: CSC) และ ผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Service Provider : CSP) โดยมีการกำหนดเกี่ยวกับความเสี่ยงเป็น 3 ระดับให้เกิดความสอดคล้องกับความเสี่ยง รวมไปถึงการติดตามประเมินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องด้วย ทั้งนี้ Requirement แบ่งออกเป็น 2 มุมมองคือ

  • Cloud Security Governance – นโยบาย โครงสร้างองค์กร และ ระเบียบข้อบังคับ
  • Cloud Infrastructure Security and Operation – ดูเรื่องบุคคล ทรัพยสิน การเข้าถึง การเข้ารหัส ความปลอดภัยเชิงกายภาพ การปฏิบัติการ 

การระบุรายละเอียดในหน้าที่ของผู้ให้บริการคลาวด์และผู้ใช้บริการ สำหรับผู้สนใจติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/43184.pdf

เปิดตัว 3 มาตรฐานการเข้ารหัสความปลอดภัยใหม่

NIST ประกาศเปิดตัว 3 มาตรฐานการเข้ารหัสความปลอดภัยใหม่สำหรับ Post-quantum cryptography

NIST ได้ประกาศเปิดตัวมาตรฐาน PQC สามรายการ ดังนี้

  • FIPS 203: พัฒนาต่อยอดจากมาตรฐาน Kyber ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ NIST Post-Quantum Cryptography Standardization มาตรฐานนี้ใช้ใน Key Agreement Protocol เช่น Transport Layer Security โดยรองรับ public key และ ciphertext ขนาดใหญ่
  • FIPS 204: ใช้มาตรฐานการเข้ารหัส Dilithium ซึ่งออกแบบมาสำหรับ Digital Signature มีความรวดเร็วในการทำ verification กับ signature และรองรับ public key ขนาดใหญ่
  • FIPS 205: พัฒนาต่อยอดจาก SHA-2 และ SHA-3 มีความแข็งแกร่งแม้ใช้ public key ขนาดเพียง 32 bytes แต่สามารถสร้าง Signature ขนาด 7 kilobyte ได้ มาตรฐานนี้เหมาะสำหรับงานบางประเภท เช่น Firmware update ที่ต้องการการ verification แบบรวดเร็ว
การใช้ SaaS อย่างมั่นคงปลอดภัย

ปัจจุบันองค์กรมีการใช้บริการ SaaS อย่างก้าวกระโดด อาจจะเป็นเพราะเรื่องค่าใช้จ่ายและต้องการ Scale ระบบงานภายใน 

ดังนั้นเรื่องความมั่นคงปลอดภัยจึงหลีกเลี่ยงไปได้ PROUD จึงขอนำเสนอแนวทางการปฏิบัติที่เหมาะสม โดยอาจจะลองนำไปปรับใช้กับการใช้ SaaS ขององค์กร ดังนี้

1. การใช้งาน MFA

เป็นการสร้างการป้องกันผู้ใช้งานให้ปลอดภัยมากขึ้น จากการที่ต้องมีการยืนยันตัวตนในหลาย ๆ มิติ 

2. การเข้ารหัสข้อมูล

การใช้งาน SaaS จะมีการเชื่อมโยงและโอนถ่ายข้อมูลอยู่ตลอด การเข้ารหัสข้อมูลจึงเป็นเรื่องสำคัญและควรปฏิบัติ รวมไปถึงข้อมูลที่เรามีการจัดเก็บไว้บนเครื่อง Local ด้วย

3. การใช้งาน CASB

เป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มความสามารถด้านความมั่นคงปลอดภัยให้มากขึ้นจากที่ SaaS มีการให้บริการอยู่แล้ว 

3 ส่วนนี้เป็นเรื่องพื้นฐานที่ควรจะดำเนินการรวมไปถึงการที่เราต้องเฝ้าระวัง ดูแลการใช้งาน SaaS อย่างเป็นประจำก็จะช่วยเสริมสร้างการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

มาตรฐาน HAIT (Hospital Accreditation Information Technology)

มาตรฐาน HAIT (Hospital Accreditation Information Technology) เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยสมาคมเวชสารสนเทศไทย (TMI) 

ซึ่งมีอยู่ 4 Level มาตรฐาน HAIT เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรงพยาบาลที่ต้องการพัฒนาระบบ IT ให้มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเชื่อถือได้ การนำมาตรฐาน HAIT มาใช้ ช่วยให้โรงพยาบาลยกระดับคุณภาพมาตรฐานการบริการด้านสุขภาพ และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ป่วย โรงพยาบาลที่ต้องการขอรับรองมาตรฐาน HAIT จะต้องผ่านการประเมินจากคณะผู้ประเมินของ TMI

โดย PROUD สามารถให้บริการคำปรึกษาเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี โดยสามารถติดต่อมาได้ที่ sales@proud-consulting.com

มาตรฐาน AI ที่เราควรตระหนัก

ปัจจุบัน AI ในประเทศไทยนั้นมีความตื่นตัวสูงมากและยิ่งความสามารถของ AI มีพัฒนาอย่างรวดเร็วด้วย

ถึงเวลาหรือยังที่เราจะต้องควบคุม โดยใช้มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์ ทั้งที่เผยแพร่และใช้งานแล้วรวมถึงอยู่ระหว่างเตรียมเผยแพร่มากกว่า 20 มาตรฐาน ยกตัวอย่าง เช่น

- ISO/IEC 38507:2022 ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินงานหน่วยงานกำกับดูแลในการเปิดใช้งานและควบคุมการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งานนั้นมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และเป็นที่ยอมรับภายในองค์กร
- ISO/IEC TR 24368:2022 เป็นภาพรวม หลักการ กระบวนการ และวิธีการ เกี่ยวกับจริยธรรมของ AI (AI ethical) และข้อกังวลของสังคม (societal concerns) เช่น สิทธิมนุษยชน เสรีภาพ ความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติของการใช้ระบบ AI
- ISO/IEC 42001:2022 ระบุข้อกำหนดและให้คำแนะนำสำหรับการสร้าง ดำเนินการ บำรุงรักษา และปรับปรุงระบบการจัดการ AI อย่างต่อเนื่องภายในบริบทขององค์กร ช่วยให้องค์กรพัฒนาหรือใช้ระบบ AI อย่างมีความรับผิดชอบในการบรรลุวัตถุประสงค์และปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อบังคับ ภาระผูกพันและความคาดหวังที่เกี่ยวข้องกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

ในความเห็นของ PROUD การผลักดันการควบคุมหรือมาตรฐาน บางครั้งไม่จำเป็นต้องออกเป็นกฎหมาย อาจเป็นประกาศภาครัฐ หรือ แนวทางจากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนั้น ๆ และที่สำคัญ คือ ต้องสร้างความตระหนัก ความเข้าใจให้กับประชาชน ผู้บริหารทั้งภาครัฐและเอกชน ให้เกิดการมีส่วนร่วมมากขึ้น สร้างการมีส่วนรวมและเกิดการควบคุมแบบ PUBLIC จะเหมาะสมกว่า

www.proud-consulting.com

sales@proud-consulting.com

AI อนาคตใหม่ของเทคโนโลยี

ตอนนี้ไม่นาจะมีท่านไหนไม่รู้จักเทคโนโลยี AI ซึ่งเริ่มเข้ามาในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น และเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการกำหนดอนาคต

ถ้าจะกล่าวถึงคำที่ตรงกับความหมายมากที่สุด คือ ปัญญาประดิษฐ์ หรือ การคิดและมีการตอบสนองออกมาอัตโนมัติของระบบคอมพิวเตอร์ ตาม ISO/IEC 22989:2020 ได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า "ความสามารถในการได้เรียนรู้ ประมวลผล สร้างสรรค และประยุกต์ใช้ความรู้ ที่จัดขึ้นในรูปแบบของแบบจำลอง เพื่อดำเนินงานที่ได้รับมอบหมายตั้งแต่หนึ่งงานขึ้นไป"

อย่างไรก็ดีองค์กรที่ให้ความสนใจในการบริหารจัดการ AI ภายในองค์กร เพื่อการจัดการกับความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับการนำ AI ไปใช้งานในกรอบระบบการจัดการที่ได้กำหนดซึ่งครอบคลุมในด้านต่าง ๆ เช่น จริยธรรม ความรับผิดชอบ ความโปร่งใส และความเป็นส่วนตัวโดยมีแนวทางบูรณาการในการจัดการโครงการ AI ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงไปจนถึงการรักษาความเสี่ยงเหล่านี้อย่างมีประสิทธิผล สามารถนำระบบการบริหารจัดการ AI (ISO/IEC 42001:2023 - AIMS: Artificial Intelligence Management System) ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการ AI ฉบับแรกของโลกที่ตอบสนองความต้องการดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับความเป็นเลิศในการรับรองความมั่นคงปลอดภัยและสนับสนุนความยั่งยืนผ่านกลยุทธ์การบริหารจัดการความเสี่ยงได้

ถ้าสนใจการบริการด้านนี้ สามารถติดต่อทาง PROUD ได้ตลอดครับ 

www.proud-consulting.com

sales@proud-consulting.com